ลูกพีช หรือ ลูกท้อ
ARE YOU OSSESSED WITH PEACH?
หากกล่าวถึง
พีช ผลไม้กลิ่นหอม รสฉ่ำ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงพีชญี่ปุ่น
เพราะได้รับความนิยมมากในประเทศไทย
จนบางคนเผลอคิดว่าพีชเป็นผลไม้ประจำชาติของญี่ปุ่นเลยก็มี
อันที่จริงแล้วสายพันธุ์พีชนั้นมากมายมีปลูกในหลายประเทศ
โดยเฉพาะในเขตที่มีอากาศหนาวเย็น
รู้จักลูกพีช
ลูกพีชนั้นมีหลายชนิด
หลายสายพันธุ์ แต่แบ่งสายพันธุ์พีชเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ตามสีของเนื้อในได้เป็น 2
กลุ่มคือ พีชขาวกับพีชเหลือง
พีชขาว
(White peach)
ที่เรียกว่าพีชขาวเพราะเนื้อในของลูกพีชชนิดนี้มีสีขาว
โดยเปลือกนอกมักจะเป็นสีชมพู สีเหลืองอ่อน หรือขาวอมชมพู เนื้อของลูกพีชขาวมักจะนิ่ม
กลิ่นหอมละมุน และมีรสหวานนำ นิยมรับประทานสด
พีชเหลือง
(Yellow Peach)
พีชชนิดนี้เนื้อมีสีเหลืองแน่นกรอบ
รสชาติหวานอมเปรี้ยว กลิ่นหอมหวาน นิยมนำไปแปรรูปมากกว่ารับประทานสด
นอกจากพีชสายพันธุ์ต่างๆที่เราเคยเห็นกันบ่อยๆ แล้ว ยังมีพีชอีกชนิดหนึ่งที่หน้าตาแปลกกว่าผองเพื่อนอยู่สักหน่อย
นั่นคือ
พีชโดนัท
(Saturn Peach)
ที่เรียกว่า
พีชโดนัท เพราะว่ามีรูปร่างกลมๆ แบนๆ คล้ายกับโดนัท พีชชนิดนี้รสชาติหวาน
กลิ่นหอมมากๆ นิยมรับประทานสด ทำแยม วิสกิต ไวน์ แชมเปน บรั่นดี
เนคทารีน
(Nectarine)
เวลาที่หาซื้อลูกพีช
อาจจะไปเจอเนคทารีนเข้า เนคทารีนเป็นผลไม้เมืองหนาวอีกชนิดที่มีลักษณะคล้ายกับพีช
เพราะกลายพันธุ์มาจากพีชนั่นเอง ผลไม้ทั้งสองชนิดนี้จึงมีลักษณะคล้ายกันมาก
ทั้งในด้านลักษณะภายนอกและคุณค่าทางอาหาร ข้อแตกต่างที่สังเกตได้ง่าย ๆ คือ
เปลือกผลเนคทารีนจะเรียบเป็นมันเงา ไม่มีขนกำมะหยี่คลุมเปลือกเหมือนกับพีช
ลูกพีช
vs ลูกท้อ
มีคนสงสัยว่า เอ...ลูกพีชกับลูกท้อ
นี่มันคือผลไม้ชนิดเดียวกันหรือเปล่า คำตอบก็คือ ชนิดเดียวกันจ้ะ
เพียงแต่เรียกชื่อต่างกันเท่านั้นเอง
ในประเทศไทยก็มี
"พีช" นะ
นอกจากนี้ยังมีพีชที่มูลนิธิโครงการหลวงได้ทําการศึกษาวิจัยในโครงการ
การศึกษาวิจัยพืชเมืองหนาวเพื่อปลูกทดแทนฝิ่น
ซึ่งทำมาอย่างต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ปีพ.ศ. 2512 โดยในปีพ.ศ.2540
ได้เริ่มมีโครงการนําพันธุ์พีชจากต่างประเทศมาปลูกทดสอบเพื่อคัดเลือกพันธุ์ดีสําหรับประเทศไทย
และสามารถคัดเลือกพีชสายพันธุ์ที่มีลักษณะดีเด่น มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ได้ 4 พันธุ์
คือ
1. พันธุ์ Earligrande มีรสชาติหวานนำ เนื้อนิ่ม ฉ่ำน้ำ
จึงเป็นรสชาติที่ถูกปากคนไทย เหมาะรับประทานสด พันธุ์นี้มีจะงอยที่ก้นผลเด่นชัด
น้ำหนักผลประมาณ 150-250 กรัม
2. พันธุ์ Tropic Beauty มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อแน่นกรอบ
เหมาะรับประทานสด ผลกลม ก้นผลไม่มีจะงอย น้ำหนักผลประมาณ 125-200 กรัม
3. พันธุ์ Jade เหมาะนำไปแปรรูป เช่น พีชลอยแก้ว แต่ก็สามารถรับประทานผลสดได้
มีผลค่อนข้างใหญ่ เมื่อสุกจะมีสีเหลืองทอง รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อแน่น
ทรงผลค่อนข้างกลม น้ำหนักผลประมาณ 150-250 กรัม
4. พันธุ์ อำพันอ่างขาง มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว
ผลกลม ก้นผลไม่มีจะงอย เนื้อสีเหลืองอำพัน ฉ่ำน้ำ ไม่เละ เหมาะรับประทานสด
น้ำหนักผลประมาณ 125-200 กรัม
พีชของโครงการหลวงจะเก็บเกี่ยวช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน
ดังนั้นใครอยากรับประทานพีชสดขอแนะนำให้ไปส่องตามร้านซึ่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของโครงการหลวงในช่วงเวลาดังกล่าว
หรือถ้าอยากจะรับประทานพีชสายพันธุ์ต่างประเทศปัจจุบันก็มีแหล่งจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นทั้งตามร้านที่จำหน่ายผลไม้ต่างประเทศ
หรือตามเว็บไซต์ ตามเพจต่างๆ
เรียกได้ว่าอยากรับประทานพีชพันธุ์ไหนก็สามารถสั่งได้ดั่งใจเลยทีเดียว
เขาว่ากันว่า
พีชนั้นรับประทานสดๆ หลังจากที่เด็ดลงมาจากต้นจะอร่อยที่สุด
ดังนั้นหากใครมีโอกาสไปเที่ยวตามประเทศที่ปลูกพีช อย่าลืมเพิ่มกิจกรรม
เที่ยวสวนพีชพร้อมเก็บพีชสดๆ ลงไปในโปรแกรมการท่องเที่ยวของคุณด้วยนะ
แล้วคุณจะติดใจกับรสชาติของพีชที่หอมหวานสดใหม่ไปอีกนาน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น